ผมเคยได้เขียนบทความส่วนหนึ่งเกี่ยวกับ Ghosting (การเท)
ซึ่งในบทความนั้นจะเน้นถึงเรื่องราวและมุมมองของคนถูกเทนั่นเอง ซึ่งสามารถอ่านย้อนหลังได้จากลิงค์นี้ https://www.psychologistchair.com/post/ghosting
.
.
Ghosting คือการตัดขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับคนๆหนึ่งโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หรือการอธิบายใดๆ
โดย Ghosting ไม่ได้จำกัดแค่เป็นความสัมพันธ์ในเชิงคนรักอย่างเดียว อาจจะเป็นเพื่อน หรือที่ทำงานก็ได้
โดยที่เรียกว่า Ghosting ก็อาจจะอธิบายได้ว่าเหมือนกับผีที่โผล่มา แล้วก็หายไปเลย
.
โดยในบทความนี้ผมจะเน้นการพูดถึงเรื่องราวและมุมมอง “คนเท” หรือ “Ghoster” นั่นเอง
.
“การเท” นั้นก็คือการตัดความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่โดยไม่ได้บอกกล่าว โดย LeFebvre (2019) ได้มีการอธิบายว่าเหตุผลอะไร Ghoster (คนเท) ถึงได้ Ghosting (เท) ดังนี้
1.มันง่าย บางครั้งการที่อะไรมันทำง่ายกว่า ก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า การหายไปเฉย ๆ มันก็แน่นอนว่าง่ายกว่าที่จะต้องเจอกับการพูดคุยที่ไม่ค่อยสบายใจ ยุ่งยาก รวมถึงไปถึงความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายอาจทำให้รู้สึกอึดอัด หรือรู้สึกผิดต่อการตัดสินใจของตนเองได้ รวมไปถึงอาจต้องใช้พลังงานอย่างมาก ดังนั้นการเทไปเลย ก็คงจะง่ายกว่า
2.เริ่มสนใจอีกฝ่ายน้อยลง บางครั้งเหตุผลของการเท
ก็เพราะเริ่มรู้สึกไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแล้ว
การหาย หรือการเท อาจดูเป็นแนวทางในการยุติความสัมพันธ์ ที่ตนเองเริ่มหมดความสนใจแล้วได้เหมือนกัน
3.มีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ บางครั้งเมื่อพบว่าอีกฝ่ายมีความคิด หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ตนเองไม่พึงประสงค์ ที่อาจทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ หรือทำให้รู้สึกไม่ชื่นชอบได้ ซึ่งทำให้รู้สึกไม่ต้องการที่จะทำให้มีปฏิสัมพันธ์ต่อ บางครั้งการหายไปเลยก็จะเป็นการดีกว่าที่จะฝืนพูดคุยกันต่อ
4.ความปลอดภัย เมื่ออีกฝ่ายเริ่มแสดงถึง “ความน่ากลัว” หรือ “ความแปลก” ที่อาจส่งผลถึงความไม่ปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุย และมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่ายอีก ซึ่งอาจทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายหรือมีการข่มขู่ก็เป็นไปได้ จึงเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะหายไป
.
หลายคนอาจจะมองว่า แล้วทำไมถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า หรือการพูดคุยกันตรงๆ
อาจกล่าวได้ว่าการที่คนเท ได้ยุติความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่ส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องราวความปลอดภัยของตนเอง ไม่ใช่แค่ทางด้านร่างกาย แต่เป็นทางด้านอารมณ์ของตนเองด้วย
กล่าวได้ว่าการหลีกเลี่ยงที่จะเจอบทสนทนาที่จะต้องผ่านไปด้วยความยากลำบากไม่มีที่สิ้นสุด
รวมถึงอาจจะได้รับผลกระทบถึงอันตรายถึงความปลอดภัยทางด้านการใช้ชีวิต และร่างกาย
คนเทจึงมองว่า การ Ghosting (การเท) อาจจะเป็นทางที่เหมาะสม และปลอดภัยกับตนเองมากกว่า
.
รวมถึงบางครั้งในความสัมพันธ์อาจจะมีช่วงเว้นระยะด้วยความจำเป็นและด้วยช่วงระยะห่างนั้น คนเทอาจจะรู้สึกถึงความกังวล ว่าอีกฝ่ายจะยังคงมีความสนใจอยู่หรือไม่
ถ้าหากยังสานต่อความสัมพันธ์ จะยังมีแนวโน้มในทางที่ดีหรือเปล่า และด้วยความคิดความกังวลต่างๆ
ทำให้คนเทตัดสินใจ เลือกที่จะเท หรือหายไปจากความสัมพันธ์นี้ ด้วยความคิดว่า
“ฉันอาจจะไม่ดีพอสำหรับเขาก็ได้”
.
.
โดย Bahar (2019) ได้กล่าวว่าในการ Ghosting(เท) ไม่เพียงแต่คนถูกเทที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น
คนเทเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนี้
1.ความมั่นใจเริ่มหดหาย เริ่มกลัวการเผชิญหน้ามากขึ้น
ไม่เพียงแต่ในเรื่องความสัมพันธ์ แต่ในเรื่องการเข้าสังคมปกติด้วย
2. มีความวิตกกังวลในเรื่องความสัมพันธ์ และความปลอดภัยของตนเองทั้งทางด้านอารมณ์และร่างกาย
และอื่นๆ
.
.
กล่าวได้ว่าในบางครั้งการยุติความสัมพันธ์แบบไม่บอกกล่าว หรือการเท ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องง่าย
หรือในบางครั้งก็จำเป็นสำหรับคนเทก็ตาม แต่ก็ยังคงมีผลกระทบต่อตัวคนเทได้เหมือนกัน
แน่นอนว่า การที่ต้องเผชิญหน้า หรือการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าแต่ในความสัมพันธ์และในโลกความเป็นจริงไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่าย
หรือตรงไปตรงมาแบบนั้นเพราะในท้ายที่สุด
“เราควรจะใส่ใจความปลอดภัยทางด้านอารมณ์ และร่างกายของตนเองก่อน”
.
.
เพื่อนๆล่ะครับ เคยมีประสบการณ์เทใครบ้างรึเปล่า ?
แล้วมีเหตุผลในการเทครั้งนั้นยังไงบ้าง?
.
เก้าอี้ตัว W
วงศธรณ์ ทุมกิจจ์
.
.
Ref.
Σχόλια